อายุการใช้งานโดยทั่วไปแบตเตอรี่นั้น จะขึ้นอยู่กับนาฬิกาแต่ละรุ่นและสภาพการใช้งาน โดยทั่วไปจะอยู่ประมาณ 2 ปี แต่สำหรับนาฬิการุ่นพิเศษบางรุ่นจะอยู่ได้นานประมาณ 5-10 ปี เช่น นาฬิการุ่นปฏิทินอัจฉริยะ (Seiko Perpetual Calendar) เป็นต้น

ทั้งนี้ทางเราขอแนะนำให้ทุกคนใช้แบตเตอรี่แท้ของไซโก เพื่อยืดอายุการใช้งานของนาฬิกา ซึ่งมีคุณสมบัติดังนี้:

• รักษาระดับแรงดันไฟฟ้าได้คงที่ เป็นเวลานาน
• คุณสมบัติคงที่อยู่เสมอภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่คงที่ (-10C ถึง +60C)
• ป้องกันการรั่วของแบตเตอรี่ได้
• สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน

กรุณาดาวน์โหลดตารางการชาร์จนาฬิกาโซล่า …   

• ดาวน์โหลด ตารางการชาร์จ SOLAR

การตรวจเช็คและบำรุงรักษา มีความจำเป็นสำหรับนาฬิกาครับ

สำหรับนาฬิการะบบควอทซ์ ได้ถูกออกแบบให้มีระบบแจ้งเตือนก่อนที่แบตเตอรี่ใกล้จะหมด โดยสังเกตได้จากการเดินของเข็มวินาที ซึ่งจะเดินครั้งละ 2 วินาที นั้นคือการเตือนว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว อย่างไรก็ตาม นาฬิกาที่ใช้แบตเตอรี่ ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ ทุก 2 หรือ 3 ปี โดยศูนย์บริการของไซโกเท่านั้น ซึ่งช่างจะตรวจเช็คนาฬิกา และทำความสะอาดสิ่งสกปรกภายในเครื่อง เช่น น้ำ ฝุ่น อื่นๆ รวมถึงการหยดน้ำมันเพื่อให้จักรเดินสะดวกไม่เปลืองแบตเตอรี่

สำหรับนาฬิการะบบจักรกล ก็ควรนำนาฬิกาเข้าตรวจเช็คและบำรุงรักษา เนื่องจากนาฬิกาประเภทนี้มีกลไกที่ซับซ้อน และมีความสึกหรอหากน้ำมันที่ใช้หล่อลื่นเสื่อมสภาพ หรือแห้ง จึงจำเป็นต้องน้ำเข้ามาทำความสะอาดล้างเครื่องและหยอดน้ำมัน เพื่อให้นาฬิกามีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ทั้งนี้ควรนำนาฬิกาเข้ามาตรวจเช็คและบำรุงรักษา ทุก 3-5 ปี

สนามแม่เหล็กเป็นแหล่งกำเนิดคลื่นแม่เหล็กฯ ซึ่งคลื่นดังกล่าว จะมีผลกับนาฬิกา Quartz ที่เป็นนาฬิกาใช้แบตเตอรี่ ในบางระบบ รวมทั้งมีผลกับนาฬิกาจักรกล ด้วย

โดยจะมีผลกระทบกับนาฬิกา Quartz ที่เป็นระบบ Analogue (มีเข็ม) แต่จะไม่มีผลกระทบกับนาฬิกา Quartz ที่เป็นระบบ Digital (ตัวเลข) ซึ่งนาฬิกา Analogue จะใช้พลังงานในการขับเคลื่อนเข็มนาฬิกาด้วยมอเตอร์ขนาดเล็ก ซึ่งทำงานโดยอาศัยสนามแม่เหล็กในการควบคุม ดังนั้นหากมีสนามแม่เหล็กจากภายนอกมารบกวน ก็จะทำให้การทำงานของมอเตอร์ดังกล่าว เกิดความคลาดเคลื่อน ซึ่งจะทำให้นาฬิการะบบ Analogue เดินไม่เที่ยงตรงหรือหยุดทำงานไปเลย หากถูกสนามแม่เหล็กแรงๆ นะครับ สำหรับนาฬิกาจักรกลนั้น จะไม่มีผลกระทบจากสนามแม่เหล็กมากนัก กรณีที่สนามแม่เหล็กมีความเข้มสูง อาจจะมีผลต่อนาฬิกาประเภทนี้บ้าง เช่นอาการเดินช้าหรือเร็ว ได้บ้าง

ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการวางนาฬิกาของคุณใกล้แหล่งกำเนิดของสนามแม่เหล็ก เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า, โทรศัพท์, ลำโพง, หรือตู้เย็น รวมถึงอุปกรณ์ Electronics อื่นๆ ซึ่งสนามแม่เหล็กจะมีผลต่อความเที่ยงตรงของนาฬิกาครับ

ตัวเรือนและสายที่ทำจากโลหะควรจะล้างน้ำเปล่า หรือถ้าสกปรกมากให้ใช้น้ำสะอาด และแปรงสีฟันขัดเบาๆ เพื่อให้คราบสกปรก หลุดออกเสร็จแล้วควรเช็ดด้วยผ้าสะอาด และ เป่าแห้ง หรือผึ่งให้แห้ง ก่อนเก็บใส่กล่องนาฬิกาตามปกติ

ส่วนสายหนังโดยส่วนใหญ่มักเกิดปัญหาในหน้าร้อน คือเมื่อมีเหงื่อสายนาฬิกาจะดูดซับความชื้นจะ ทำให้สายมีกลิ่นและเกิดความ เสียหายได้ ดังนั้นควรถอดและเช็ดด้วยผ้าแห้งหลังจากนั้นผึ่งไว้ที่อากาศ ถ่ายเท เพื่อไล่ความชื้นแต่ไม่ควรนำไปตากแดดแรงๆ เพราะจะเกิดความเสียหายกับ ตัวเรือนนาฬิกาและสายหนังได้