King Seiko รวบรวมความงามและศิลปะแห่งขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของญี่ปุ่นในผลงานสร้างสรรค์ล่าสุด
พื้นหน้าปัดลวดลายดอกเบญจมาศ ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
นาฬิกาข้อมือรูปทรงเพรียวบางรุ่นใหม่มาพร้อมหน้าปัดที่มีลวดลายสุดประณีต สะท้อนถึงจิตวิญญาณของโตเกียว ที่ซึ่ง King Seiko ถือกำเนิดขึ้นในทศวรรษที่ 1960 พื้นหน้าปัดสีขาวที่งดงามด้วยลวดลายอ้างอิงจากดอกเบญจมาศ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น ดอกเบญจมาศเป็นตัวแทนของชีวิตที่ยืนยาวและการฟื้นฟู อันมีความสำคัญอย่างยิ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ดอกไม้มงคลนี้ แสดงผ่านลายเส้นที่ตัดกันอย่างประณีตซึ่งเรียกกันว่า kiku tsunagi-mon (คิคุ สึนางิ-มอง) ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงลวดลายดอกเบญจมาศที่เชื่อมโยงเรียงร้อยต่อกัน ลวดลายแบบนี้มีความเกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับเครื่องแก้ว edo-kiriko (เอโอะ-คิริโกะ) เครื่องแก้วเจียระไนรูปแบบหนึ่งที่ถือเป็นงานหัตถกรรมยอดนิยมของญี่ปุ่น คำว่า Edo-kiriko แปลว่า “วัตถุที่มีเหลี่ยมเพชรแห่งเอโดะ” มีชื่อเสียงในด้านความงามอันซับซ้อนและการออกแบบที่เปี่ยมเอกลักษณ์ ที่ได้มาจากการเจียระไนแก้วหลายเหลี่ยมด้วยความชำนาญ
การผสมผสานระหว่างความเรือนที่มีเหลี่ยมมุมและเข็มทรงเหลี่ยมเพชรเข้ากับพื้นหน้าปัดที่สลับซับซ้อน นำความงามและความประณีตระดับใหม่มาสู่คอลเลกชั่น King Seiko
โครงสร้างของนาฬิกาได้รับแรงบันดาใจจากนาฬิกา King Seiko KSK ที่เปิดตัวในปี 1965 ด้วยตัวเรือนเฉียบคม เจียระไนเหลี่ยมมุมอย่างประณีต และมาพร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยกำหนดลักษณาของ King Seiko เมื่อได้รับการแนะนำสู่ตลาด ตัวเรือนแบบเหลี่ยมมุมจากรูปทรงที่มีความแบนราบ กว้างและได้รับการเจียระไนเหลี่ยมมุมอย่างเฉียบคม ทั้งยังได้รับการขัดเงาให้สะท้อนแสงอย่างสวยงาม ชุดเข็มชั่วโมงและนาทีแบบเหลี่ยมเพชรที่ประกอบเข้ากับตัวเรือน แสดงให้เห็นถึงคุณภาพระดับสูงในการผลิตนาฬิกาของ Seiko สมัยใหม่ และประสานความแม่นยำกับความสวยงามของลายดอกเบญจมาศ อันเป็นหัวใจของวัฒนธรรมและเป็นหนึ่งในงานหัตถศิลป์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น
นาฬิกามาพร้อมสายหนังสีเบจที่เพิ่มเป็นทางเลือก ทั้งสีสันและพื้นผิวของสายเข้ากับพื้นหน้าปัดประดับลายอย่างลงตัว
ฝาหลังสลักชื่อ King Seiko พร้อมกับโล่สัญลักษณ์ที่มีรูปทรงแบบเดียวกับรุ่นดั้งเดิม
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 6L35 นาฬิการุ่นใหม่มีความเพรียวบางกว่า King Seiko KSK รุ่นดั้งเดิม
แม้จะใช้กลไกอัตโนมัติ และมีหน้าต่างแสดงวันที่ก็ตาม แต่ก็ยังมีความบางกว่าด้วยการปรับปรุงโครงสร้างตัวเรือนนั่นเอง
ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 600 เรือนทั่วโลก สนนราคา 134,000 บาท วางจำหน่ายวันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ที่ไซโก บูติก เซ็นทรัลพระราม 9, เคาท์เตอร์ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้า และช่องทางออนไลน์ที่ Seiko Boutique Online: www.seikoboutiquethailand.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888
The King Seiko Collection: SJE095J
คาบิเบอร์ 6L35
ความถี่ในการทำงาน: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (8 บีทต่อวินาที)
พลังงานสำรอง: 45 ชั่วโมง
จำนวนทับทิม: 26
ตัวเรือนและสายผลิตจากสแตนเลสสตีล
กระจกแซฟไฟร์ทรงกล่องพร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อน
ฝาหลังขันเกลียว
เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน: 38.6 มิลลิเมตร หนา: 10.7 มิลลิเมตร
การกันน้ำ: 5 บาร์
การป้องกันสนามแม่เหล็ก: 4,800 A/m
มีสายเพิ่มรวมอยู่ในชุด
ราคา134,000 บาท
ผลิตจำนวนจำกัด: 600 เรือน